คุณสุภาพสตรีหลายคนอาจกำลังมีแพลนอยากไปเสริมความสวยที่บริเวณใบหน้า เติมความอวบอิ่มเพิ่มความเซ็กซี่ให้กับปากของตนเองด้วยการฉีดฟิลเลอร์ปาก ซึ่งเป็นหนึ่งวิธีที่สามารถทำได้และเรียบง่ายกว่าการผ่าตัดศัลยกรรม อีกทั้งใช้เวลาทำน้อยกว่า และไม่ต้องพักฟื้นด้วย จึงเป็นหนึ่งวิธีที่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนแนะนำ แต่ก่อนที่คุณจะเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ที่ปาก มีข้อมูลบางประการที่คุณควรรู้ก่อนที่จะตัดสินใจทำ จะมีอะไรบ้างนั้นมาติดตามกัน
ทำไมต้องทำฟิลเลอร์ปาก ?
คุณสุภาพสตรีหลาย ๆ คนอาจมีปัญหาเรื่องของริมฝีปากบาง ริมฝีปากแห้ง ทำให้ริ้วรอยที่ริมฝีปากเกิดขึ้นอย่างเด่นชัด เมื่อมีริ้วรอยที่ปากชัดขึ้นเวลาที่คุณทาลิปสติกก็จะพบปัญหาเนื้อลิปสติกตกร่อง ทำให้ทาแล้วออกมาไม่สวย
นอกจากนั้นแล้วบางคนอาจมีปัญหาเรื่องรูปทรงปาก รูปปากไม่ได้สัดส่วน มุมปากตก ริมฝีปากหนาหรือไม่เท่ากัน จนทำให้รู้สึกว่าใบหน้าของตนเองไม่น่ามอง ซึ่งทำให้สูญเสียความมั่นใจในการใช้ชีวิตไป กรณีเหล่านี้ก็ต้องมีการแก้ไข ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ปาก
การฉีดฟิลเลอร์ปากนั้น เป็นกระบวนการฉีดปากด้วยสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid หรือเรียกสั้น ๆ ว่า HA เข้าไปบริเวณริมฝีปากเพื่อให้สาร HA นี้เข้าไปช่วยเพิ่มเนื้อและปรับขนาดโครงสร้างปาก ซึ่งสารเติมเต็ม HA นี้มีคุณสมบัติที่อุ้มน้ำ จึงสามารถช่วยแก้ปัญหาริมฝีปากบาง ปากแห้งลอก ปากไม่เป็นทรงได้ หลังจากฉีดปากก็จะดูอวบอิ่มขึ้น มีรูปทรงที่สวยงามขึ้นนั่นเอง
ฟิลเลอร์ปาก เหมาะกับคนที่มีปัญหาแบบไหนบ้าง ?
- ผู้ที่มีปัญหาเนื้อปากไม่เท่ากัน บางคนอาจขาดความสมดุลของเนื้อปาก ทำให้ปากมีความหนาบางไม่เท่ากัน เมื่อมองโดยรวมแล้วทรงรูปปากจึงดูไม่สวย กรณีแบบนี้การฉีดปากด้วยฟิลเลอร์ก็เป็นตัวช่วยที่ดี
- ผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากแห้ง คนที่มีริมฝีปากแห้งแตก ริมฝีปากขาดความชุ่มชื้น ทาลิปสติกแล้วไม่เรียบเนียนสม่ำเสมอ แบบนี้การฉีดฟิลเลอร์ที่ปากก็ช่วยได้ หลังจากฉีดแล้วปากจะดูอิ่มน้ำ ร่องปากจะดูเต็มขึ้น
- ผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากบาง ไม่ว่าจะเป็นริมฝีปากบางโดยธรรมชาติ หรือเป็นเพราะผ่านการผ่าตัดศัลยกรรมปากมาก็ตาม สามารถฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มให้ปากดูอิ่มฟูขึ้นได้
- ผู้ที่มีปัญหามุมปากตก บางคนทำหน้าเฉย ๆ คนอื่นมองมาก็รู้สึกเหมือนว่าทำหน้าบูดบึ้งใส่ตลอดเวลา ที่เป็นเช่นนั้นเพราะมีปัญหาเรื่องมุมปากตก การฉีดฟิลเลอร์ปากก็สามารถช่วยยกมุมปากขึ้นให้เป็นทรงสวยได้ หลังฉีดแล้วก็จะทำให้ใบหน้าดูสดใสมากขึ้น
- ผู้ที่ต้องการปรับใบหน้าเสริมบุคลิกภาพ สำหรับคนที่ต้องการปรับรูปใบหน้าเพื่อสร้างบุคลิกภาพใหม่ที่ดี และเป็นการเสริมโหงวเฮ้งของตนเอง ก็สามารถใช้วิธีการฉีดฟิลเลอร์ที่ปากเพื่อปรับรูปหน้าโดยรวมให้ดูดีขึ้นได้เช่นกัน
ฉีดฟิลเลอร์ปากเจ็บไหม และมีขั้นตอนอย่างไร ?
สิ่งที่จะทำให้หลาย ๆ คนไม่กล้าเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ปาก ก็เพราะกลัวว่าตอนฉีดปากจะเจ็บ แต่ในความเป็นจริงแล้วการฉีดฟิลเลอร์ที่ปากนั้นไม่ได้สร้างความเจ็บปวดอย่างที่หลายคนกังวลเลย ก่อนที่จะเริ่มฉีดแพทย์ผู้ทำจะมีการแปะยาชาและฉีดยาชาก่อนเสมอ นอกจากนั้นแล้วในฟิลเลอร์บางยี่ห้อก็มียาชาผสมมาในตัว จึงช่วยบรรเทาความเจ็บตอนฉีดได้ดี และถ้าเทียบแล้วต้องบอกว่าวิธีการนี้เจ็บน้อยกว่าการผ่าตัดศัลยกรรมปากมากเลยทีเดียว
หากว่าคุณยังไม่ค่อยมั่นใจและยังกังวลเรื่องความเจ็บปวด ลองมาดูขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ปากแบบคร่าว ๆ กันดูดีกว่าว่ามีขั้นตอนอย่างไรกันบ้าง จะได้เบาใจมากขึ้น
-
ประเมินรูปหน้าและรูปทรงปาก
เริ่มต้นแพทย์จะพิจารณารูปหน้า และทำการประเมินรูปทรงปาก ว่าแบบไหนที่เหมาะกับรูปหน้าของคุณ ถ้าบางคนมีรูปทรงปากที่ต้องการอยู่แล้วก็สามารถบอกความต้องการหรือนำมาขอคำปรึกษากับแพทย์ก่อนได้
-
แปะยาชาหรือประคบเย็น
จะมีการแปะยาชาก่อนฉีดประมาณ 30 นาทีเพื่อลดความเจ็บตอนจิ้มเข็ม กรณีที่มีการแพ้ยาชาแพทย์ก็อาจเลือกเป็นการประคบเย็นแทน
-
ฉีดยาชา
หลังจากแปะยาชาหรือประคบเย็นภายนอกแล้ว แพทย์จะทำการฉีดยาชาเพื่อให้บริเวณปากบนและปากล่างมีอาการชา จะได้ไม่รู้สึกเจ็บตอนฉีดฟิลเลอร์
-
ฉีดฟิลเลอร์ปาก
แพทย์จะทำการฉีดสารเติมเต็ม HA เข้าไปที่ปากและปั้นทรงปากตามที่เหมาะสม หรือตามที่คนไข้ต้องการ โดยขั้นตอนนี้แพทย์แต่ละท่านก็จะมีเทคนิคที่แตกต่างกันไป
อาการข้างเคียงการฉีดฟิลเลอร์ปาก
หลังการฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นไปได้ว่าอาจพบอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีด จะแบ่งเป็น 2 ส่วนดังนี้
- อาการข้างเคียงทั่วไป
โดยปกติแล้วในช่วง 3-7 วันแรกหลังฉีดจะเกิดอาการบวมขึ้นได้ แต่ละคนจะมีอาการบวมมากน้อยแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน แต่ไม่น่ากังวลอะไร เพราะสามารถหายได้เอง ยิ่งถ้ามีการประคบเย็นช่วยก็จะลดอาการบวมได้เร็วขึ้น
- อาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
ถ้าผ่านไปนานกว่า 1 สัปดาห์แล้วอาการบวมยังไม่หาย และอาจมีอาการอักเสบ หรือเกิดความรู้สึกเจ็บมากจนผิดปกติ บางคนอาจมีตุ่มใส ๆ และเริ่มมีหนองเกิดขึ้นด้วย นั่นแสดงว่าอาจมีการติดเชื้อหรือแพ้ฟิลเลอร์ หากมีอาการข้างเคียงลักษณะนี้ให้รีบมาพบแพทย์ทันที
ฟิลเลอร์ปากคงสภาพอยู่ได้นานแค่ไหน ?
โดยทั่วไปแล้วฟิลเลอร์ปากจะคงสภาพอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือนหลังฉีด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ตั้งแต่เรื่องของการดูแลหลังฉีด รุ่นและยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่ฉีดก็มีผล แต่ละรุ่นก็จะมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป ทำให้อยู่ได้นานไม่เท่ากัน ซึ่งสามารถที่จะกลับมาฉีดซ้ำได้ ประมาณสัก 3-4 เดือนให้กลับมาฉีดสัก 1 ครั้ง เพื่อการปรับสภาพรูปปากให้ดูสวย ได้รูปทรงเหมือนในช่วงแรกที่ฉีด
สรุป
สุดท้ายแล้วใครที่กำลังคิดตัดสินใจเรื่องการฉีดฟิลเลอร์ปาก สิ่งต้องให้ความสำคัญอย่างมากเลยก็คือเรื่องความปลอดภัย ควรเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน เลือกรุ่นฟิลเลอร์ที่มี อย.รับรอง และควรเลือกแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้วย ก็จะช่วยลดความเสี่ยง มั่นใจได้ในความปลอดภัย และได้ปากที่ดูเซ็กซี่ มีทรงตามที่ต้องการ