ร้อยไหมคือวิธีการยกกระชับผิวที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นหัตถการที่ใช้เวลาในการทำไม่นาน เห็นผลลัพธ์ทันที ไม่ต้องเสียเวลาในการพักฟื้น ทั้งยังสามารถช่วยยกกระชับผิวตามบริเวณที่คนไข้ต้องการได้อย่างตรงจุด
ร้อยไหมช่วยอะไรบ้าง ?
อย่างที่รู้กันดีอยู่แล้วนะคะว่าการร้อยไหมสามารถช่วยยกกระชับผิวหนังที่หย่อนคล้อยได้ และการร้อยไหมนั้นก็ยังสามารถช่วยแก้ปัญหาอื่นๆ ได้อีกหลายอย่าง ดังนี้
- ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น เนื่องจากร้อยไหมแล้วใบหน้าจะมีการยกกระชับขึ้น ทำให้เห็นผลในส่วนของรูปหน้าที่ดูเรียวและได้รูปทรงมากยิ่งขึ้นไปด้วย
- มุมปากยกขึ้น กระเปาะไขมันช่วงมุมปากกระชับ ร่องน้ำหมากดูดีขึ้น
- แก้ปัญหาหนังตาตก หางตาตก การร้อยไหมยกหางตาจะช่วยให้ผิวบริเวณหางตาที่หย่อนคล้อยกระชับขึ้น
- แก้ปัญหาแก้มตอบ เนื่องจากแพทย์จะทำสอดไหมแล้วยกกระชับผิวหนังขึ้น ทำให้สามารถช่วยแก้ปัญหาแก้มตอบได้ด้วย
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูเติมเต็มอิ่มฟูและเรียบเนียนมากขึ้น
ขั้นตอนในการร้อยไหม
ในการร้อยไหม จะมีขั้นตอนหลักๆ ทั้งหมด 7 ขั้นตอน ดังนี้
-
- ประเมินใบหน้าก่อนทำ เพื่อดูว่าต้องใช้ไหมจำนวนกี่เส้นและต้องวางแนวไหมอย่างไร
- แปะยาชา หมอจะใช้ยาชาแบบทาประมาณ 30 นาที เพื่อช่วยลดความเจ็บปวดขณะฉีดยาชาและร้อยไหม
- ฉีดยาชา เพื่อช่วยลดความเจ็บปวดขณะร้อยไหมในชั้นผิวหนัง
- เช็ดหน้าด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ เพื่อทำความสะอาดผิวและฆ่าเชื้อเตรียมพร้อมใบหน้าก่อนทำการร้อยไหม
- ร้อยไหม แพทย์จะสอดเส้นไหมเข้าไปในเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังแล้วดึงขึ้น เพื่อให้เกิดกลไกในการยกกระชับผิว คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บเนื่องจากฤทธิ์ของยาชา แต่อาจจะมีความรู้สึกตึงๆ บริเวณผิวหนังที่โดนร้อยได้ค่ะ
- กดไหม จัดตำแหน่งไหม หมอจะทำการดึงปรับไหมให้ผิวยกกระชับขึ้น และคลายริ้วไหมในบางตำแหน่ง ซึ่งต้องใช้เทคนิคเฉพาะทางการแพทย์เพื่อกำหนดตำแหน่งของผิวที่ต้องการให้ยกกระชับ
- ตัดไหม จะเป็นขั้นตอนสุดท้าย เนื่องจากในการร้อยไหมบางชนิดจะต้องมีการผูกปม ซึ่งเมื่อตัดไหมออก จะไม่เห็นเส้นไหมและปมไหม
สำหรับคนที่สงสัยว่าร้อยไหมเจ็บไหมนั้น ตามขั้นตอนข้างต้นที่หมอได้อธิบายไว้คือจะมีทั้งการแปะและฉีดยาชา ทำให้ระหว่างร้อยไหมนั้นคนไข้ไม่มีความเจ็บปวดใดๆ เลยค่ะ
ร้อยไหมมีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง ?
ข้อดีของการร้อยไหม
- เห็นผลทันทีหลังทำ ว่าใบหน้ามีความยกกระชับขึ้น
- ไม่ต้องพักฟื้น เนื่องจากการร้อยไหมเป็นหัตการที่ไม่ใหญ่มาก จะมีแผลตรงจุดเปิดไหมเล็กน้อย ทำให้หลังร้อยสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น
- ปลอดภัยไม่เป็นอันตราย เนื่องจากแพทย์จะใช้เส้นไหมที่ผ่านมาตรฐานอย. ซึ่งสามารถสลายได้เองตามอายุของไหม จึงไม่มีสารตกค้างในร่างกายที่ทำให้เกิดอันตรายได้ค่ะ
- แก้ปัญหาความหย่อนคล้อยได้อย่างตรงจุด โดยแพทย์จะทำการสอดเส้นไหมเข้าใต้ชั้นผิวแล้วยกขึ้น เพื่อให้เกิดความกระชับในบริเวณที่มีปัญหาความหย่อนคล้อย
ข้อเสียของการร้อยไหม
- หลังร้อยมีอาการบวม และรอยช้ำตามแนวร้อยไหม ซึ่งอาการเหล่านี้ค่อยๆ ดีขึ้นและหายไปในช่วง 1-2 สัปดาห์หลังร้อย
- ไม่เหมาะกับคนที่มีโหนกแก้มใหญ่ เนื่องจากการร้อยไหมอาจจะทำให้โหนกแก้มใหญ่ขึ้นและรูปหน้าดูไม่สวย
- ผลลัพธ์ไม่ถาวร เนื่องจากเส้นไหมที่ผ่านมาตรฐานอย.จะสลายไปได้เองตามธรรมชาติ ระยะเวลาขึ้นอยู่กับชนิดของไหม ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้จากการร้อยไหมอยู่ไม่ถาวร หากเกิดความหย่อนคล้อยต้องกลับมาทำการร้อยไหมใหม่อีกเรื่อยๆ
ร้อยไหมอันตรายไหม ?
สำหรับคนที่สนใจร้อยไหม แต่ยังมีความสงสัยว่าร้อยไหมอันตรายไหมนั้น หมอสามารถตอบได้ตรงนี้เลยค่ะว่า การร้อยไหมไม่เป็นอันตรายใดๆ หากมีหลักเกณฑ์ที่ถูกต้องในการเลือกสถานพยาบาลหรือคลินิกในการร้อยไหมซึ่งสามารถอ่านเพิ่มเติมที่บทความ ร้อยไหมที่ไหนดีได้เลยค่ะ
ผลข้างเคียงจากการร้อยไหม
- มีอาการบวม เขียวหรือฟกช้ำ เป็นอาการที่พบได้ตามปกติและจะหายเองภายใน 7-14 วัน
- มีเลือดออกเล็กน้อยระหว่างที่แพทย์ร้อยไหม บริเวณที่แทงเข็มเข้าไป ซึ่งอาการจะค่อยๆ ดีขึ้น และไม่รู้สึกเจ็บเนื่องจากฤทธิ์ของยาชา
- รู้สึกตึงๆ ใบหน้า อาจทำให้หลังร้อยไหมอ้าปากไม่ได้ โดยจะตึงสุดๆ ในช่วง 1-3 วันแรก และอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์แรก
โดยผลข้างเคียงจากการร้อยไหมเหล่านี้ไม่เป็นอันตรายใดๆ แต่คนไข้ควรดูแลตัวเองหลังร้อยไหมให้ดีและทำตามข้อปฏิบัติที่แพทย์แนะนำค่ะ
ร้อยไหมบวมกี่วัน ?
หลังการร้อยไหมจะมีอาการบวมมากสุดใน 3-7 วันแรก จากนั้นอาการบวมจะค่อยๆ ดีขึ้นและหายไปภายใน 2 สัปดาห์ โดยไหมจะเริ่มเข้าที่และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนในช่วงสัปดาห์ที่ 4 หลังร้อย
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาการบวมหลังร้อยไหม: ร้อยไหมบวมกี่วัน
ร้อยไหมอยู่ได้นานไหม ?
ระยะเวลาผลลัพธ์จากการร้อยไหมนั้นจะขึ้นอยู่กับแล้วแต่บุคคลและการดูแลหลังการร้อย แต่ปัจจัยหลักๆ จะเป็นประเภทของเส้นไหมที่ร้อย เนื่องจากไหมแต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติการทำงานที่ต่างกัน ส่งผลทำให้ระยะเวลาที่จะเห็นผลแตกต่างกันไป ดังนี้
- ไหมก้างปลา ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน
- ไหมทอร์นาโด ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 8-12 เดือน
- ไหม Mint ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน
- ไหมโครงตาข่าย (Tesslift) ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 18-24 เดือน
อ่านเพิ่มเติม : ร้อยไหมกี่วันเห็นผล
สรุป
การร้อยไหมสามารถช่วยยกกระชับผิวในบริเวณที่มีความหย่อนคล้อยได้ หลักการทำงานของเส้นไหมคือเข้าไปเกี่ยวชั้นผิวขึ้นตามแนวที่แพทย์ร้อยเส้นไหมไว้ ซึ่งนอกจากจะเห็นผลในเรื่องของความยกกระชับแล้วยังช่วยปรับรูปหน้า ยกมุมปาก และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว และเพื่อผลลัพธ์ที่ดี คนไข้ควรเลือกคลินิกหรือสถานพยายาลที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการร้อยไหมเป็นอย่างดีค่ะ