ในปัจจุบันนวัตกรรมการร้อยไหมกำลังเป็นที่นิยมมากค่ะ เนื่องจากสามารถช่วยปรับรูปหน้าให้มีความยกกระชับ แก้ปัญหาความหย่อนคล้อย รวมถึงสามารถช่วยแก้ปัญหาเฉพาะจุดต่างๆ บนใบหน้าได้ เช่น ยกกระชับหางตา ยกร่องแก้ม ยกกระชับเหนียง เป็นต้น ดังนั้นเพื่อให้คนที่กำลังสนใจในการร้อยไหมตัดสินใจง่ายขึ้นว่าร้อยไหมที่ไหนดี หมอจะมาช่วยบอกถึงหลักเกณฑ์ในการพิจารณาคลินิกหรือสถานพยาบาลในการร้อยไหมค่ะ
หลักเกณฑ์ในการเลือกที่ร้อยไหม
- คลินิกมีความน่าเชื่อถือ เป็นส่วนที่มีความสำคัญมากเนื่องจากความน่าเชื่อถือของคลินิกสามารถทำให้คนไข้สามารถมั่นใจได้ว่าไม่ได้ร้อยไหมกับคลินิกเถื่อน ร้อยแล้วไม่ต้องเป็นกังวล ดังนั้น คลินิกที่ดีควรมีสถานที่ตั้งชัดเจน อยู่ในที่ที่คนพลุกพล่านและสังเกตได้ง่าย
- แพทย์มีความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการร้อยไหม แพทย์ที่ทำการร้อยไหมจะต้องมีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม จากสภาวิชาชีพของแพทย์หรือแพทยสภา
- ราคามีความสมเหตุสมผล ไหมแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติแตกต่างกันไปแล้วแต่วัสดุและเทคนิคในการร้อยของแพทย์ ดังนั้น ราคาของไหมจึงต่างกันออกไปด้วย แต่ทั้งนี้ต้องอยู่ในช่วงราคาที่พอดี ไม่แพงหรือถูกจนเกินไป
- มีรีวิวหลังร้อยของคนไข้จริง ก่อนการตัดสินใจร้อยไหม ควรดูรีวิวของคลินิกนั้นๆ ด้วยว่ารูปคนไข้ก่อน-หลังร้อยเป็นอย่างไร รวมถึงความคิดเห็นของผู้ใช้บริการควรเป็นด้านบวกมากกว่าด้านลบ
ร้อยไหมเหมาะกับใครบ้าง ?
- ผู้ที่มีปัญหาร่องแก้ม ร่องมุมปาก เนื่องจากผิวหน้าไม่เต่งตึง อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การเสื่อมสภาพของคอลลาเจนใต้ผิวหนัง การสูญเสียความหนาแน่นของผิว เป็นต้น
- ผู้ที่อยากปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด เนื่องจากหลังการร้อยไหมจะมีแผลค่อนข้างเล็ก ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติทันที จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าแต่ไม่พร้อมสำหรับการผ่าตัดและพักฟื้นเป็นเวลานานๆ
- ผู้ที่มีใบหน้าหย่อนคล้อย ต้องการยกกระชับใบหน้าให้ดู V-shape มากยิ่งขึ้น
- ผู้ที่มีปัญหาแก้มตอบ ต้องการแก้ไขปัญหาแก้มตอบแต่ไม่อยากทำการฉีด Filler ซึ่งการร้อยไหมก็สามารถช่วยแก้ไขปัญหาได้เช่นกันค่ะ
ลักษณะของไหมที่ใช้
ไหมละลายที่ใช้ร้อยเพื่อยกกระชับแบ่งออกเป็น 3 แบบหลักๆ ตามวัสดุที่นำมาผลิต ดังนี้
- PDO (Polydioxanone) มีความยืดหยุ่น ไม่เปราะ เป็นไหมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
- PLLA (Polylactic acid) เป็นวัสดุมีความแข็งแรง ไม่ค่อยยืดหยุ่น ทำให้ขาด เปราะหักง่าย แต่ข้อดีของไหมชนิดนี้คือสามารถกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิวได้ดี
- PCL (Polycaprolactone) เป็นวัสดุที่มีความยืดหยุ่นสูง เมื่อมีการขยับใบหน้า เส้นไหมจะมีการยืดหยุ่นไปตามการเคลื่อนไหวของใบหน้า ลดโอกาสการเกิดไหมขาดได้ดี กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวได้นาน
อ่านเพิ่มเติม: ร้อยไหมมีกี่แบบ
วิธีดูแลตัวเองหลังร้อยไหม
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์หลังการร้อยไหมที่ดี และลดโอกาสในการเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย คนไข้ควรดูแลตัวเองดังนี้ค่ะ
- หลังร้อย 48 ชั่วโมง ไม่ควรโดนน้ำบริเวณแผลรูไหมเข้า
- หลังร้อย 1-3 วัน แรก ควรประคบเย็นต่อเนื่อง
- หลังร้อย 1-2 สัปดาห์ ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ดจัด อาหารหมักดอง เหล้า เบียร์ รวมถึงการกินอาหารหน้าเตาที่มีความร้อน เช่น ชาบู หมูกระทะ รวมไปถึงงดกิจกรรมที่ทำให้ใบหน้าโดนความร้อน เช่น อบซาวน่าหรือตากแดดเป็นเวลานานๆ
- หลังร้อย 4 สัปดาห์ หลีกเลี่ยงการเลเซอร์บริเวณใบหน้า
สรุป
ในการร้อยไหมควรเลือกคลินิกโดยพิจารณาจากหลายๆ ปัจจัย เช่น ความน่าเชื่อถือของคลินิก ประสบการณ์ของแพทย์ รีวิวจริงหลังร้อย เป็นต้น เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและการทำหัตการได้อย่างปลอดภัย มั่นใจว่าจะไม่เกิดอันตรายใดๆ ตามมาค่ะ