สำหรับคนที่มีปัญหาเหนียงกวนใจ เนื่องจากมีไขมันสะสมบริเวณใต้คาง ใบหน้าดูเป็น 2 ชั้น ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันรวมไปถึงไม่มั่นใจในการถ่ายรูปอัพลงโซเชียล และต้องการหาทางออกในปัญหานี้ หลายๆ คนจึงอาจจะสนใจในการร้อยไหมเพื่อยกกระชับเหนียง แต่ก็ยังมีความสงสัยว่าร้อยไหมเหนียงคืออะไร ช่วยแก้ปัญหาได้จริงไหม และหน้าจะเรียวขึ้นจริงหรือเปล่า วันนี้หมอจะมาไขข้อข้องใจให้ค่ะ
เหนียงเกิดจากอะไร ?
เหนียง คือไขมันใต้ชั้นผิวหนังที่สะสมอยู่บริเวณใต้ชั้นคาง โดยปกติแล้วเหนียงมักเกิดจากการที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นและมีไขมันไปสะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกายมากขึ้นรวมถึงบริเวณใต้ชั้นคางด้วย แต่ก็ยังมีอีกหลายปัจจัยที่มีส่วนทำให้เกิดเหนียงได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเพศ ฮอร์โมน อาหาร พันธุกรรม หรือความหย่อนคล้อยของผิวหนังตามช่วงอายุวัย
สำหรับคนที่มีเหนียงจะรู้ดีค่ะว่า เหนียงเป็นปัญหาที่ดูเหมือนจะเล็กน้อย แต่ค่อนข้างกวนใจอยู่มากทีเดียว เพราะไม่ว่าจะหันมุมไหน แต่งหน้าปกปิดอย่างไรก็ช่วยไม่ได้ ยิ่งเวลาก้มหน้าลงจะยิ่งทำให้เห็นชัดเจนมากขึ้น ที่สำคัญคือไขมันเหนียงไปบังชั้นกรอบหน้า ทำให้กรอบหน้าไม่ชัดเจนอีกด้วย
ร้อยไหมเหนียงคืออะไร ?
ร้อยไหมเหนียงก็จะคล้ายๆ กับการร้อยไหมใบหน้าบริเวณอื่นทั่วๆ ไป แต่ต่างกันตรงที่ร้อยไหมเหนียงเป็นการใส่ไหมเข้าไปในชั้นไขมันใต้ผิวหนังบริเวณเหนียง(นิยมใช้ผสมกันระหว่างไหมเรียบและไหมที่มีเงี่ยง) โดยไหมจะเข้าไปช่วยดึงผิวบริเวณเหนียงให้มีความกระชับขึ้น รวมถึงกรอบหน้าก็จะดูชัดขึ้นด้วยค่ะ
ร้อยไหมเหนียงเหมาะสำหรับใครบ้าง ?
- ผู้ที่มีปัญหาเนื้อใต้คางแน่นและมีความหย่อนคล้อย โดยไหมจะเกาะกับชั้นไขมันบริเวณเหนียงและยกกระชับขึ้น ทำให้เห็นผลได้ชัดเจนทันทีหลังทำ
- ผู้ที่ต้องการให้กรอบหน้าชัด เนื่องจากการร้อยไหมเหนียงสามารถช่วยเก็บกรอบหน้าได้ดี ทำให้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเน้นให้เห็นกรอบหน้าชัดๆและใบหน้าสวยได้รูปมากยิ่งขึ้น
- ผู้ที่มีเหนียงจากเนื้อคางแน่นหรือหย่อนคล้อย ซึ่งวิธีที่เห็นผลทันที เจ็บน้อยและไม่ต้องพักฟื้นนานก็คือการร้อยไหมเหนียง ซึ่งสามารถช่วยยกกระชับผิวบริเวณใต้คางที่หย่อนคล้อยได้
เมื่อมีคนที่เหมาะกับการร้อยไหมเหนียงแล้ว แน่นอนว่าก็จะมีบางคนที่ไม่เหมาะกับการแก้ไขปัญหาเหนียงโดยการร้อยไหมเช่นกันค่ะ ได้แก่
- ผู้ที่มีผิวหลวมเหลวจากการขาดคอลลาเจน สาเหตุเกิดจากการมีอายุมากขึ้น ซึ่งหมอจะไม่แนะนำให้เลือกวิธีการร้อยไหมเป็นอับดับแรกเนื่องจากเมื่อใต้ผิวมีคอลลาเจนน้อยจะทำให้เส้นไหมเกาะผิวได้ไม่ดี
- ผู้ที่มีไขมันเหนียงเยอะมากๆ หมอจะแนะนำให้ฉีดเมโสแฟตก่อนแล้วค่อยร้อยไหมเหนียงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและชัดเจนมากขึ้นค่ะ
ร้อยไหมเหนียงกับเมโสแฟตลดเหนียง ต่างกันอย่างไร ?
การร้อยไหมเหนียงกับเมโสแฟตนั้น สามารถให้ผลลัพธ์ในการยกกระชับเหนียงและทำให้กรอบของใบหน้าชัดได้ดีเหมือนกัน แต่จะมีความแตกต่างกันอยู่ดังนี้ค่ะ
ร้อยไหมเหนียง
- เหมาะสำหรับคนที่มีเนื้อและไขมันพอประมาณ (ไม่เหมาะกับคนที่มีเนื้อและไขมันน้อยหรือเยอะจนเกินไป)
- หลังร้อยไม่ต้องพักฟื้น โดยจะเห็นผลว่าเหนียงมีความยกกระชับขึ้นได้ทันทีหลังร้อยเสร็จ
เมโสแฟต
- เป็นการฉีดสลายไขมันเฉพาะจุดตามที่ต้องการ เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันเหนียงปริมาณน้อยไปจนถึงปานกลาง
- หลังฉีดไม่ต้องพักฟื้น โดยจะเห็นผลชัดเจนช่วงหลังฉีดประมาณ 1 สัปดาห์
- ในการฉีดเมโสแฟตแต่ละครั้งจะช่วยสลายไขมันได้ประมาณ 20-30% จึงควรฉีดย้ำอีกครั้งหลังฉีดครั้งก่อนหน้าประมาณ 7-10 วัน(สามารถฉีดย้ำได้หลายครั้งจนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ)
ดังนั้น คนไข้ควรเลือกหัตการที่เหมาะสมกับปัญหาและรูปแบบเนื้อไขมันเหนียงของแต่ละบุคคล หรือหากไม่แน่ใจว่าตัวเองเหมาะกับการแก้ปัญหาเหนียงแบบไหนก็สามารถส่งรูปใบหน้าหรือเข้ามาให้แพทย์ช่วยพิจารณาก่อนได้ค่ะ
ร้อยไหมเหนียงที่ไหนดี ?
การร้อยไหมเหนียงก็เหมือนกับการทำหัตการอื่นๆ ที่หากคนไข้ต้องการเห็นผลลัพธ์ชัดเจน ปลอดภัยและไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย หมอแนะนำให้ใช้หลักเกณฑ์เหล่านี้ในการพิจารณาเลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลในการร้อยไหมเหนียงค่ะ
- แพทย์มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการร้อยไหม รวมถึงมีใบประกอบวิชาชีพเวช-กรรม
- อุปกรณ์ที่ใช้ในการร้อยไหมมีความสะอาด ปลอดเชื้อ
- คลินิกหรือสถานพยาบาลมีความน่าเชื่อถือ หากจะให้ดีควรตั้งอยู่ในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน
- มีใบอนุญาตประกอบกิจการจากกระทรวงสาธารณสุข
- มีการให้คำปรึกษาที่ดีและถูกต้องก่อนร้อยไหม รวมถึงมีการติดตามผลหลังทำเพื่อให้คนไข้มั่นใจว่าจะได้ผลลัพธ์สวยตามที่ต้องการ และไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายหลังจากร้อยไหมเหนียง
สรุป
สำหรับคำถามที่ว่าร้อยไหมเหนียงคืออะไร หมอได้ทำการสรุปข้อมูลให้เข้าใจกันแล้วนะคะ และสิ่งที่สำคัญมากๆ เลยคือการเลือกการทำหัตการให้เหมาะสมกับปัญหารูปหน้าของตัวเอง รวมทั้งมีการพิจารณาเลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลในการร้อยไหมเหนียงตามหลักเกณฑ์ข้างต้นที่หมอแนะนำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์หลังการร้อยไหมที่ดีและไม่มีผลค้างเคียงที่เป็นอันตรายเกิดขึ้นค่ะ